บทความที่น่าสนใจ
เชื่อมสแตนเลสแบบมือโปร ต้องเลือกลวดให้เป็น! 308L 316L 309L ใช้ตอนไหนดี?
18
ก.พ.
ก.พ.
การเชื่อมสแตนเลสให้ได้คุณภาพสูง ไม่ใช่แค่ฝีมือช่างเชื่อมที่สำคัญ แต่การเลือกลวดเชื่อมที่เหมาะสมก็เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้รอยเชื่อมแข็งแรง ทนทาน และลดปัญหาการแตกร้าวหรือการกัดกร่อนของชิ้นงานได้ ลวดเชื่อมสแตนเลสที่นิยมใช้มีหลายประเภท แต่ที่พบมากในงานอุตสาหกรรมและงานช่างทั่วไป ได้แก่ 308L, 316L และ 309L แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าเราควรเลือกใช้ลวดเชื่อมชนิดใดให้เหมาะสมกับงานของคุณ!
1. ลวดเชื่อม 308L – เหมาะสำหรับสแตนเลสเกรด 304 และ 304L
คุณสมบัติเด่น
- ใช้สำหรับเชื่อมสแตนเลสออสเทนนิติกประเภท 18-8 เช่น 304 และ 304L ซึ่งเป็นเกรดที่พบมากที่สุด
- มีปริมาณคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) ทำให้ลดโอกาสเกิดการกัดกร่อนตามแนวรอยเชื่อม (Intergranular Corrosion)
- ให้รอยเชื่อมที่เหนียวแน่น ทนทานต่อการแตกร้าว
การใช้งานที่เหมาะสม
- งานเชื่อมถังสแตนเลส ท่อ และโครงสร้างสแตนเลสที่เป็น 304 หรือ 304L
- งานเชื่อมชิ้นส่วนที่ต้องการทนต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อน
- งานตกแต่งที่ต้องการรอยเชื่อมเรียบและขัดได้ง่าย
2. ลวดเชื่อม 316L – เหมาะสำหรับงานที่ต้องทนต่อการกัดกร่อนสูง
คุณสมบัติเด่น
- ใช้เชื่อมกับสแตนเลส 316 และ 316L ซึ่งมีส่วนผสมของโมลิบดีนัม (Mo) ทำให้ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนได้ดีกว่า 304
- มีปริมาณคาร์บอนต่ำ ลดการเกิดคาร์ไบด์ที่ขอบเกรนของรอยเชื่อม ช่วยป้องกันการเกิดสนิมในบริเวณรอยเชื่อม
- เหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสกับน้ำทะเล กรด หรือสารเคมีรุนแรง
การใช้งานที่เหมาะสม
- งานอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องมือแพทย์ และอุตสาหกรรมเคมี
- งานก่อสร้างหรือโครงสร้างที่ต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและสารกัดกร่อนสูง เช่น โรงงานผลิตอาหารทะเล หรืองานติดตั้งอุปกรณ์ใต้น้ำ
- งานเชื่อมท่อ ถัง และโครงสร้างของสแตนเลส 316 และ 316L
3. ลวดเชื่อม 309L – เชื่อมสแตนเลสกับเหล็กกล้าคาร์บอน
คุณสมบัติเด่น
- มีโครเมียมและนิกเกิลสูง ทำให้สามารถเชื่อมระหว่าง สแตนเลสกับเหล็กกล้าคาร์บอนได้
- ลดการแตกร้าวที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวัสดุที่มีองค์ประกอบทางเคมีต่างกัน
- ให้รอยเชื่อมที่แข็งแรงและทนต่ออุณหภูมิสูง
การใช้งานที่เหมาะสม
- ใช้เชื่อม สแตนเลสกับเหล็กกล้าคาร์บอนหรือเหล็กอัลลอยต่ำ เช่น โครงสร้างที่ต้องการเชื่อมระหว่างเหล็กธรรมดากับสแตนเลส
- งานเชื่อมซ่อมบำรุงที่ต้องใช้วัสดุที่ทนทานต่อความร้อนสูง
- งานสร้างเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ต้องรองรับอุณหภูมิสูง
วิธีการเลือกใช้ลวดเชื่อมให้เหมาะสม
- พิจารณาวัสดุที่ต้องเชื่อม – ตรวจสอบว่าสแตนเลสที่ใช้เป็นเกรดใด เพื่อเลือกใช้ลวดเชื่อมที่เข้ากันได้
- พิจารณาสภาพแวดล้อมของชิ้นงาน – หากต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือน้ำทะเล ให้เลือก 316L แต่หากเป็นงานทั่วไป 308L ก็เพียงพอ
- พิจารณาความต้องการพิเศษ – หากต้องเชื่อมสแตนเลสเข้ากับเหล็กกล้าคาร์บอน ควรเลือกใช้ 309L
เปรียบเทียบคุณลักษณะ และคุณสมบัติ ลวดเชื่อมสแตนเลส เดอะซัน 308L vs 316L vs 309L | ||
|---|---|---|
| ลวดเชื่อมสแตนเลส 308L เหมาะสำหรับงานสแตนเลส ในสภาวะแวดล้อมการกัดกร่อนปกติ เช่น งานมีชื้นแฉะบ้างและแห้งในบางครั้ง | ลวดเขื่อมสแตนเลส 316L เหมาะสำหรับงานสแตนเลส ในสภาวะแวดล้อมการกัดกร่อนสูง เช่น งานอยู่ไกล้ทะเล งานที่มีสารเคมี อุณหภูมิสูง | ลวดเขื่อมสแตนเลส 309L เหมาะสำหรับงานสแตนเลส ในสภาวะแวดล้อมการกัดกร่อนสูง และ การเชื่อมเหล็กต่างชนิดกัน อาทิ เชื่อมรองพื้นด้วย 309L-16 และทับหน้าด้วยลวดเชื่อมพอกผิวแข็ง |
| มาตรฐานอ้างอิง:AWS E308L-16 | มาตรฐานอ้างอิง:AWS E316L-16 | มาตรฐานอ้างอิง:AWS E309L-16 |
| ธาตุสำคัญ: 18%โครเมียม 8% นิเกิล | ธาตุสำคัญ: 18%โครเมียม 12% นิเกิล 2%โมลิดินัม | ธาตุสำคัญ: 24%โครเมียม 12% นิเกิล |
| ชิ้นงาน: สแตนเลส18%โครเมียม 8% นิเกิล อาทิ 304, 304L | ชิ้นงาน: สแตนเลส 18%โครเมียม 12% นิเกิล 2%โมลิดินัม อาทิ 316L | ชิ้นงาน: เหล็กต่างชนิด อาทิ เหล็กกับสแตนเลส 304L หรือเหล็กกล้าประสมต่ำ(Low Alloy Steel) |
| ทนการกัดกร่อน: ปกติ | ทนการกัดกร่อน: สูง | ทนการกัดกร่อน: สูง |
| คูณสมบัติแนวเชื่อม: ทนต่อแรงกระแทกได้ปกติ กัดกร่อนปกติ ที่อุณหภูมิต่ำ | คุณสมบัติแนวเชื่อม: ทนต่อแรงกระแทกได้ปกติ-สูง ทนกัดกร่อนสูงด้วย | คุณสมบัติแนวเชื่อม: ทนต่อแรงกระแทกได้สูง ทนกัดกร่อนสูง แนวเชื่อมแข็งแรงที่อุณหภูมสูง |
| การนำไปใช้งาน: เครื่องครัวสแตนเลส ถังน้ำสแตนเลส ประตูสแตนเลส และใช้งาน ที่อุณหภูมิต่ำติดลบ | การนำไปใช้งาน: งานเชื่อม โครงสร้างสแตนเลส อุตสาหกรรมเคมี อาหาร น้ำมัน และอู่ต่อเรือทะเล | การนำไปใช้งาน: งานเชื่อมต่อเหล็กต่างชนิด เหล็ก-สแตนเลส และงานซ่อมเชื่อมทั่วไป |
สรุป
การเลือกใช้ลวดเชื่อมสแตนเลสที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การเชื่อมมีคุณภาพสูงและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง หากคุณต้องเชื่อม สแตนเลส 304 หรือ 304L ให้ใช้ 308L หากต้องการทนการกัดกร่อนสูง เช่น งานสัมผัสน้ำทะเล ให้ใช้ 316L และหากต้องเชื่อมสแตนเลสเข้ากับเหล็กกล้าคาร์บอน ให้เลือก 309L
เมื่อลือกลวดเชื่อมได้ถูกต้อง งานเชื่อมของคุณจะออกมาสมบูรณ์ แข็งแรง และทนทานเหมือนมือโปรแน่นอน!