เชื่อมทองเหลืองกับเหล็ก สำหรับคนหัดเชื่อมประสาน ทำไงดีนะ!!! การเชื่อมประสานทองเหลือง ( Brass Brazing ) หรือบางท่านอาจจะเรียกว่าการเชื่อม หรือการแล่นประสาน หรือบัดกรีแข็ง( Brazing ) ทองเหลือง( Brass ) คือ กรรมวิธีการเชื่อมต่อโลหะที่มีตั้งแต่สองชิ้นหรือมากกว่านั้นเข้าด้วยกัน
งานโลหะที่มาเชื่อมต่อกันอาจจะเป็นชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกันก็ได้ โดยใช้อุณหภูมิความร้อนแก่รอยต่อที่อุณหภูมิสูงกว่า 450 องศา ด้วยโดยโลหะเติมจะหลอมละลาย แต่ไม่ถึงกับอุณหภูมิหลอมละลายของโลหะขิ้นงานที่นำมาทำการประสาน โดยอาศัยปฏิกิริยาคาปิลารี ( Capillary action ) หลอมละลายโลหะเติมแทรกซึมเข้าไปในช่องว่างระหว่างรอยต่อ โดยลักษณะโลหะเติมจะเป็นโลหะที่ไม่อยู่จำพวกเหล็ก อาจจะเป็นโลหะผสม เช่น ลวดทองแดงผสมฟอสฟอรัส ทองเหลือง หรือในบางครั้งช่างหลายคน ก็อาจจะชอบเรียกกันว่า ลวดเชื่อมทองเหลือง หรือลวดเชื่อมประสานทองเหลือง โดยที่โลหะเติมเหล่านี้จะมีจุดหลอมเหลวสูงกว่า 450 องศา ในงานระบบปรับอากาศ งานประสานทองเหลืองมักจะถูกนำมาใช้ในงานเชื่อมต่อท่อทองแดง เหล็กหล่อ เหล็กเครื่องมือ เหล็กต่างชนิด เป็นต้น
การใช้ ลวดเชื่อมทองเหลืองกับเหล็ก หรือเชื่อมต่อประสานต่อโลหะ วิธีการนี้ดูเหมือนง่ายแต่ความจริงการปฏิบัติมีรายละเอียดปลีกย่อยพอสมควรที่ต้องคำนึง เพื่อให้งานออกมาดี มาดูพื้นฐานขั้นตอนที่มือใหม่หัดเชื่อมประสานกัน (Brazing) กับชิ้นง่ายๆกันก่อนดังต่อไปนี้
1. เชื่อมทองเหลืองกับเหล็ก ต้องทำความสะอาดชิ้นงานให้สะอาดมากที่สุดเท่าที่ทำได้ และ ให้มีระยะห่างรอยต่อที่เหมาะสม
หลักการพื้นฐานเลยถ้าบนผิวชิ้นงาน มีคราบน้ำมัน จารบี หรือฝุ่น ก็จะทำให้การไหลตัวของทองเหลืองที่มาเติม ไหลตัวได้ไม่ดีบนผิวชิ้นงาน ทำให้ทำงานยากขึ้นไปอีก หลังทำความสะอาดแล้วก็ควรใช้มือเปล่าซึ่งอาจมีคราบไขมันไปทำให้ชิ้นงานสกปรกอีกได้ อีกทั้งควรต้องเตรียมรอยต่อที่ดีให้ได้ระยะที่ถูกต้องเสมอ เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาคาปิลลารี ระยะห่างแนะนำว่าควรใช้ประมาณ 0.038 มม.แต่ระยะทั่วไปคือประมาณ 0.025-0.127 มม.
2. ทำการเติมฟลักซ์ที่รอยต่อเพื่อทำให้รอยต่อสะอาด
ทำการใส่ฟลักซ์ โดยการเติมฟลักซ์ด้วยลวดโลหะซึ่งไม่หลอมละลายได้ง่าย และใช้เปลวไฟเป่าฟลักซ์ให้ไหลไปมาทั่วทั้งรอยต่อ จนฟลักซ์ขาวกลายเป็นฟลักซ์ใส และ มั่นใจว่ารอยต่อมีฟลักซ์ไหลไปทั่วแล้ว
3.เริ่มให้ความร้อนกับชิ้นงานบริเวณรอยต่อ
เริ่มให้เปลวไฟเป่าชิ้นงานให้ร้อนขึ้นอุณหภูมิสูงขึ้นทั่วบริเวณรอยต่อ จนเป็นสีแดงออกสว่าง 800-900 องศา ให้ทั่วทั้งรอยต่อ อย่าเป่าไปที่จุดๆเดียว
ใช้ลวดเติมแตะที่รอยต่อเพื่อทดสอบอุณหภูมิการหลอมว่าได้ที่แล้วหรือยัง เพื่อเป้าหมายให้ชิ้นงานที่ร้อนหลอมลวดเติม ไม่ควรใช้เปลวไฟเป่าลวดให้ละลายเด็ดขาด
4. การป้อนลวดเติม และ การเดินแนว
นำลวดเติมจุ่มฟลักซ์เพิ่มเติม เพื่อให้การไหลของน้ำโลหะดีขึ้น เริ่มการป้อนลวดอย่างเป็นจังหวะ แช่-ยก โดยลวดเติม และเปลวไฟ เป็นมุมฉากกับลวด การป้อนลวดคำนึงไว้ว่า การป้อนลวดจะเริ่มขึ้นเมื่อชิ้นงานร้อนได้ที่ แช่ลวดไว้ที่รอยต่อความร้อนที่ชิ้นงานจะทำให้ลวดเติมหลอมละลายและถูกดูดเข้าไปที่รอยต่อเกิดปฏิกิริยาคาปิลลารี
ทำการเดินลวดอย่างเป็นจังหวะ แช่-ยก ทั่วทั้งรอยต่อ หมุนชิ้นงานด้วยเพื่อให้การเดินลวดได้สะดวก และใช้เปลวไฟเป่าช่วยให้น้ำโลหะไหลไปในช่องรอยต่อได้
ถ้าทำทุกอย่างถูกต้อง จะพบว่าจะใช้ลวดเติมไปนิดเดียวสำหรับงานชิ้นเล็กๆ
หลังการเชื่อมจะเห็นว่าลวดเติมไหลปิดช่องว่างรอยต่อสมบูรณ์
5. การทำความสะอาดรอยเชื่อมประสาน
อาจใช้แปรงลวดมือ หรือ แปรงลวดมอเตอร์ไฟฟ้า ในการทำความสะอาดได้ โดยขจัดฟลักซ์ที่หลงเหลือ และคราบออกไซด์ที่ผิวรอยต่อออก
หลังขัดทำความสะอาดจะได้ชิ้นงานหลังเชือมประสานออกมาดูดี
อุปกรณ์เชื่อมที่ใช้ในการเชื่อมแก๊ส และ ลวดเติมเชื่อมประสาน
ทำหน้าที่เป็นตัวประสานรอยต่อ โดยมี 2 แบบ ได้แก่ ลวดเชื่อมประสานทองเหลือง-เปลือย และ ลวดเชื่อมประสานทองเหลือง -หุ้มฟลักซ์ ถ้าเป็นแบบเปลือยจะใช้คู่กับ ฟลักซ์เชื่อมทองเหลือง หรือ ที่เรียกกันว่า ผงประสานทองเหลือง บรรจุเป็นกระป๋องเปิดฝาออกแล้วใช้ลวดจุ่ม แต่ลวดเชื่อมทองเหลืองหุ้มฟลักซ์ จะหุ้มฟลักซ์มาแล้วสีขาว ทำให้เราสามารถเชื่อมประสานได้เลย และทำความสะอาดไปพร้อมกัน สะดวกไม่ต้องพะวงต้องจุ่มฟลักซ์ขณะทำการประสานทองเหลือง
มือใหม่การเชื่อมแก๊ส อันตรายที่ต้องระวัง